ข้อมูลส่วนบุคคล คืออะไร

 


ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA : Personal Data Protection Act) “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data)

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปจะต้องเก็บเท่าที่จำเป็น และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย

ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Personal Data)

เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ลายนิ้วมือ เป็นต้น ซึ่งมีการควบคุมเข้มงวดกว่าข้อมูลทั่วไป พ.ร.บ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว ไม่ให้มีการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม หรือนำไปใช้ในทางมิชอบ โดยกำหนดให้การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล และต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้กับเจ้าของข้อมูลเท่านั้น

หากต้องการทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กฎหมาย PDPA สามารถอ่าน สรุป PDPA ได้ที่  PDPA คืออะไร

ข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คืออะไร มีอะไรบ้าง?

  1. ข้อมูลลายนิ้วมือหรือข้อมูลใบหน้า (Biometric data)
  2. ศาสนา (Religious)
  3. ข้อมูลสุขภาพ (Health)
  4. รสนิยมทางเพศ (Sexual orientation)
  5. ความคิดเห็นทางการเมือง (Political opinions)
  6. ข้อมูลพันธุกรรม (Genetic data)

“ซึ่งผมจะนิยามออกมาเป็น 2 แบบ สำหรับข้อมูลอ่อนไหว”

  1. เป็นข้อมูลที่เปลี่ยนยาก หรือ เปลี่ยนไม่ได้ เช่น ข้อมูลลายนิ้วมือ (Biometric data) หรือ ข้อมูลใบหน้า (Face Recognized) ที่เราใช้ในการปลดล็อค smartphone เนี่ยแหละครับ
    ตัวอย่าง: ผมเก็บข้อมูลลายนิ้วมือไว้กับบริษัทในการ scan ทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยใช้นิ้วโป้งขวา แต่ปรากฏว่าบริษัทนั้นทำข้อมูลของผมรั่วไหลออกไปในโลกออนไลน์หรือสาธารณะ แปลว่า ในชีวิตผมต่อไปจะไม่สามารถใช้นิ้วโป้งขวาในการยืนยันตัวตนหรือทำธุรกรรมในโลกออนไลน์ได้อีกเลย ผมอาจจะต้องใช้ลายนิ้วมืออื่นแทน เพราะผมไม่สามารถเปลี่ยนลายนิ้วมือตัวเองได้นั่นเอง
  2. เป็นข้อมูลที่จะทำให้เกิดอคติในสังคม ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่จะทำให้เกิดความลำเอียง (bias) อาจจะทำให้เจ้าของข้อมูลนั้นสูญเสียโอกาสในการดำเนินชีวิตไป เช่น ความคิดเห็นทางการเมือง, รสนิยมทางเพศ, ศาสนา
    ตัวอย่าง: ผมอาจจะไปสมัครงานกับบริษัทที่มีความซีเรียสกับศาสนาที่นับถือ หรือ เรื่องของพฤติกรรมทางเพศบางอย่างที่พอเวลาข้อมูลของเราหลุดไปแล้ว จะทำให้เจ้าของข้อมูลเกิดความขัดแย้งกับคนอื่น ๆในสังคมได้

ข้อมูลส่วนบุคคล กับ ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่างกันอย่างไร?

สิ่งที่เหมือนกัน: องค์กร (ผู้ควบคุมข้อมูล หรือ Data Controller ) จะต้องมีการขอ ความยินยอม (consent) และ วัตถุประสงค์กับเจ้าของข้อมูลให้ชัดเจนก่อนที่จะนำข้อมูลที่ได้มาไปใช้ หรือ เปิดเผย และเจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการขอ แก้ไข, เปลี่ยนแปลง, ลบ ได้ทุกเมื่อ

สิ่งที่ต่างกัน: ข้อยกเว้นทางกฎหมายกับโทษที่จะได้รับนั้นแตกต่างกันซึ่งข้อมูลอ่อนไหวนั้นจะยกเว้นได้ยากกว่าและมีโทษที่หนักกว่ามากกว่า ข้อมูลส่วนบุคคล ที่ไม่มีความอ่อนไหว



04.08.68